ธรรมะง่าย ๆ กับวิทยากรธรรมะ - ครูบิ๊ก - สัปดาห์นี้มาแบ่งปันเทคนิคกรองข่าวปลอมกันค่ะ เพราะเชื่อว่าในยามนี้..สิ่งที่แพร่ไปได้ไกลและเร็วไม่แพ้เชื้อไวรัสก็คงจะเป็นข่าวปลอมนี่ล่ะค่ะ มันเป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาให้สังคมวุ่นวายหนักไปกว่าเดิม แต่ไม่ว่าคนที่ปล่อยข่าวจะมีจุดประสงค์อะไรก็ตาม..หน้าที่ของเรามีเพียงอย่างเดียวคือ #พิจารณาให้ดีก่อนเชื่อและก่อนแชร์ค่ะ
หลายท่านคงเดากันว่าครูบิ๊กจะพูดถึง #กาลามสูตร ที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ชาวกาลามะให้ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนจะเชื่อสิ่งใด
กาลามสูตรเป็นสิ่งที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ค่ะ และเพื่อทำให้การพิจารณานั้นมีหลักหนักแน่นขึ้นสำหรับชั่วโมงนี้ ครูบิ๊กจึงขอแบ่งปันหลักการเพิ่มเติมดังนี้ค่ะว่า เมื่อท่านได้รับข่าวใดมา..สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยท่านคัดกรองข่าวปลอมได้ค่ะ
1.ใช้ Google’s Fact Check Explorer ค่ะ : เครื่องมือนี้ต้องขอบคุณ Google ที่สร้างขึ้นมาให้เราใช้ฟรี ๆ เพียงพิมพ์ key word ของข่าวที่เราต้องการเช็คลงไป เครื่องมือนี้จะให้คำตอบเราเลยค่ะว่าข่าวนั้นจริงหรือมั่ว อย่างเมื่อสักครู่ครูบิ๊กเพิ่งค้นหาด้วยวลี Queen Elizabeth ลงไป เครื่องมือก็แสดงผลเลยค่ะว่า ข่าวสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงติดโควิดนั้น เป็นข่าวปลอมค่ะ (เครื่องมือนี้ยังไม่รองรับภาษาไทย รอหน่อยนะคะ)
2.พาดหัวแรงหรือดราม่าเกินจริง : วลีเร้าอารมณ์ประมาณ “ที่สุด” “เป็นแสน” “เป็นล้าน” “ไร้ความหวัง” ฯลฯ ให้ระวังไว้ก่อนว่าเป็นการล่อเหยื่อ สำนักข่าวปลอมนั้นส่วนมากเขาทำมาหากินจากการล่อให้คนเข้ามาดูข่าวนั้นมาก ๆ และวิธีการที่ง่ายที่สุดคือการ “พาดหัวเรียกแขก” นี่ล่ะค่ะ
3.เช็คแหล่งที่มา โดยการสังเกต URL : แหล่งข่าวออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ควรจะมี URL หรือ web address ที่อ่านได้ว่าสำนักข่าวของคุณชื่ออะไร เช่น www.mcot.net (สำนักข่าวไทย) หรือชื่อเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ ของสถานีโทรทัศน์ ก็ควรอ่านชื่อได้ชัดเจนและสั้นกระชับ หากคลิกเข้าไปอ่านข่าวแล้วพบว่า URL กลายเป็นตัวเลขบ้าง ตัวหนังสือที่อ่านไม่ได้ความบ้าง หรือตัวเลขสลับกับตัวหนังสือบ้าง หรือเป็น URL ยาวมากๆ ให้รีบปิดออกมาเลยค่ะ เพราะนั่นเป็นสำนักข่าวปลอมแน่นอน มิหนำซ้ำ..คุณอาจได้ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นของแถมอีกด้วยนะคะ
4.เช็ควันที่ : วิธีการสร้างข่าวปลอมง่าย ๆ คือการนำข่าวใหญ่ในอดีตมาแชร์ใหม่ ข่าวใหญ่ที่ว่านั้นเป็นข่าวจริงนะคะ แต่เกิดขึ้นและจบไปนานมากแล้ว แต่คนจำนวนไม่น้อย..อ่านยังไม่ทันจบก็แชร์ออกไปเสียแล้วโดยไม่ดูวันที่ แบบนี้เราก็ตกเป็นเครื่องมือกระจายข่าวปลอมไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ
5.เช็คตัวสะกด ไวยากรณ์ : สำนักข่าวปลอมมักผลิตข่าวออกมาในเวลาจำกัด จึงมีโอกาสสะกดผิดและใช้ภาษาผิดไวยากรณ์ได้มาก พบข่าวไหนที่สะกดแย่ ไวยากรณ์หยาบ พึงเข้าใจไว้ก่อนว่าเป็นข่าวปลอมค่ะ
6.เงยหน้าออกมาจาก Social media เสียบ้าง : สำนักข่าวปลอมรู้ดีว่า..Social media เป็นสวรรค์ของการแพร่ข่าวปลอม ดังนั้นหากเราสงสัยข่าวใด..ก็เพียงออกมาแล้วเปิด search engine ใดก็ได้ จากนั้นพิมพ์หัวข้อข่าวนั้นลงไปค่ะ หากข่าวนั้นเป็นจริง..ย่อมจะมีเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือต่าง ๆ เผยแพร่ข่าวดังกล่าวอยู่อย่างคึกโครมแล้วล่ะค่ะ ในทางตรงข้าม..หากท่านค้นหาแล้วไม่พบว่ามีใครเผยแพร่ข่าวนี้เลย ก็จงอย่ากลับไปให้ความสนใจข่าวนั้นอีกต่อไปค่ะ เพราะมันเป็นข่าวปลอมแน่นอน
ช่วยกันนะคะ..ช่วยอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่เชื้อไวรัสยังไม่พอ แต่เรายังต้องช่วยกันหยุดแพร่ข่าวปลอมด้วย และหลักการกรองข่าวปลอมเหล่านี้..แม้เราผ่านวิกฤตโควิดไปแล้ว เราก็ยังใช้พิจารณาข่าวหรือประเด็นต่าง ๆ ได้ตลอดค่ะ
ขอบุญกุศลที่ทุกท่านได้ประกอบมาดีแล้ว จงเป็นเกราะคุ้มกันให้ทุกท่านรอดปลอดภัยจากไวรัส เพราะ #ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ค่ะ