เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 26 วัน แล้ว

ครูบิ๊กเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการทำงานด้วยสติ ให้กับ "สีเบเยอร์" เมื่อเร็ว ๆ นี้ค่ะ

4 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

อีกครั้งที่ครูบิ๊กได้รับความไว้วางใจให้เป็นวิทยากรบรรยายธรรมหัวข้อ “ทำงานให้สตรอง ต้องครองด้วยสติ” ให้กับบริษัท บี.เอ็น.บราเดอร์ จำกัดหรือผู้ผลิต “สีเบเยอร์” นั่นเองค่ะ ครูบิ๊กได้ทราบจากฝ่ายฝึกอบรมว่า ผู้บริหารของสีเบเยอร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิตใจอยู่แล้ว...บรรยากาศของการบรรยายและ workshop ในวันนี้จึงเป็นไปอย่างสนุกสนานมากค่ะ

ครูบิ๊กเริ่มบรรยายหัวข้อ “ทำงานให้สตรอง ต้องครองด้วยสติ”ด้วยการเปรียบเทียบว่า ถ้าชีวิตของเราคือต้นไม้...ส่วนที่จะทำให้ต้นไม้ “สตรอง” หรือแข็งแรงอยู่ได้ ก็คือ “ราก” และ “ราก” ของชีวิตคนก็คือ “การรู้เป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์” นั่นเองค่ะ

ครูบิ๊กชี้ให้ทุกคนเห็นว่า “คนเราเกิดมาเพื่อทำความดีและพัฒนาตนเอง” มิใช่เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมแบบที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิด หากเราเข้าใจวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเช่นนี้ เราก็จะทำงานทุกวันแบบมี “รากหยั่งลึก” เราจะทำงานด้วยความ “สตรอง” อย่างแน่นอน เพราะทุกปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามา..ล้วนเป็นน้ำเป็นปุ๋ยรดลงบน “ราก” แห่งการทำความดีและพัฒนาตนเองของเรา

ผู้เข้าอบรมยกมือเลือกที่จะใช้ชีวิตเพื่อทำความดีและพัฒนาตนเอง

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของการทำความดีและพัฒนาตนเอง คือพญามาร ที่จะไม่ยอมให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมา และทำให้เราอ่อนแอ จึงได้ส่งลูกน้องคือผีขี้โลภ ผีขี้โกรธ และผีขี้หลง มาชักจูงให้มนุษย์เราลงไปทำในสิ่งที่ต้องเสียใจ เป็นเหตุให้ทำงานไม่สบาย ต้องเผชิญและแบบความทุกข์อยู่ตลอดเวลา

ลูกน้องพญามารทั้ง 3 ตัว มีวัตถุประสงค์ที่จะ

1.เข่นฆ่า
2. ขโมย (ความหวัง ความฝัน และการพัฒนาตนเอง)ไปจากมนุษย์
3. คุกคาม คือทำให้มนุษย์อยู่อย่างไม่เป็นสุข โดยความกังวลกับอดีตและอนาคต

ผีขี้โลภ จะเข้าสิงมนุษย์และก่อให้เกิดความอยาก ความชอบ ความรัก หวงกั้นและยึดติด

ผีขี้โกรธ จะเข้าสิงมนุษย์และก่อให้เกิดความไม่ชอบ หงุดหงิด รำคาญ โกรธแค้นอาฆาตพยาบาท

ผีขี้หลง จะเข้าสิงมนุษย์และก่อให้เกิดความฟุ้งซ่าน เหม่อลอย ขาดสติ ขาดสมาธิในการทำงาน

โดยผีทั้ง 3 ตัว จะเข้าสู่ใจของมนุษย์ผ่านทางประตูทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวสัมผัส

ดังนั้นมนุษย์ต้องคอยรู้ทันเวลาผีทั้ง 3 ตัวเข้าสิงใจเรา ครูบิ๊กจึงได้ลองให้ผู้เข้าอบรมทุกท่านทำ workshop หัวข้อ “มันคืออะไร” เพื่อฝึกหัดรู้เท่าทัน ผีแต่ละตัวที่เข้าสิงใจของเรา

จากนั้นทำกิจกรรมชื่อ “น้องกายน้องใจ” เพื่อเรียนรู้ธรรมชาติของกายใจ และการเข้าโจมตีกายใจของผีทั้ง 3 ตัว

สุดท้ายทำกิจกรรม “ล้อมรั้วหัวใจ” เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเห็นภาพว่า “สติ” เป็นตัวคอยป้องกันไม่ให้ผีสามตัวเข้ามาโจมตีใจของมนุษย์ได้ การมีสติจึงทำให้มนุษย์ทำงานได้อย่างสบายและมีความสุข

โดยภาวะการมีสตินั้น คือการเอาใจมาแนบไว้ที่ 3 ฐานของสติได้แก่

1. ฐานลมหายใจ

2.ฐานกายเคลื่อนไหว (ซึ่งครูบิ๊กแนะนำอิริยาบถเดิน)

3.ฐานการงาน ซึ่งอาจเป็นการงานแบบกิจวัตรประจำวัน หรือการงานเลี้ยงชีพที่บริษัทก็ได้

และได้เน้นย้ำให้ผู้เข้าอบรมฝึกเจริญสติโดยการนำใจ มารู้และแนบไว้ที่ 3 ฐานนี้บ่อยๆ

จากนั้นช่วงบ่าย ครูบิ๊กแบ่งปัน 4 เทคนิค การฝึกสติ ซึ่งได้แก่

1. รู้กายใจ
2. ไม่ใช่ฉัน
3. ทันตามจริง
4. ทิ้งตัดสิน

เทคนิค 1 : รู้กายใจ คือการฝึก “จับผี” หรือการรู้เท่าทันเมื่อผีตัวใดตัวหนึ่งเข้าสิงใจ สลัดผีทิ้งไปแล้วนำใจกลับมาอยู่ที่ฐานลม ฐานกายเคลื่อนไหว และฐานการงาน (ตามที่ได้เรียนไปก่อนหน้านี้)

เทคนิค 2 : ไม่ใช่ฉัน (Non attachment) ความทุกข์ของเราจะมากขึ้นเมื่อเรานำ “ตัวฉัน” ไปผูกติดไว้กับสถานการณ์หรือสิ่งของใด ๆ เช่น

“เจ้านายตำหนิฉัน”

“ฉันไม่ได้รับคำชม”

การฝึกด้วยเทคนิค “ไม่ใช่ฉัน” คือการฝึกเอาคำว่า “ฉัน” ออกจากประโยคนั้น ๆ เช่น

“เจ้านายตำหนิ.........”

“.......ไม่ได้รับคำชม”

ซึ่งผู้เข้าอบรมจะรู้สึกได้ทันทีว่า เมื่อนำคำว่า “ฉัน” ออกไป ความทุกข์จะเบาลงทันที

เทคนิค 3 : ทันตามจริง คือการฝึกนำใจกลับมาที่ “Here and now” ที่นี่และเดี๋ยวนี้ ซึ่งเราสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการรู้สิ่งที่เข้ามากระทบทาง “ประตูใจทั้ง 5” ได้แก่

สิ่งที่ตาเห็นขณะนี้
สิ่งที่หูได้ยินขณะนี้
สิ่งที่จมูกได้กลิ่นขณะนี้
สิ่งที่ลิ้นได้ลิ้มรสขณะนี้
สิ่งที่กระทบผิว/ความรู้สึกที่กล้ามเนื้อขณะนี้

เทคนิค 4 : ทิ้งตัดสิน (Non Judgement) คือการฝึกเห็นแบบเป็นกลาง ไม่ตัดสินผิด-ถูก ดี-ชั่ว เห็นสถานการณ์นั้นหรือบุคคลๆ นั้นแบบที่มันเป็น

ต่อด้วยการฝึกปฏิบัติ การนำ “สติ” ไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์เหล่านี้

- Mindful Minute : คือการหาเวลา เพียงแค่วันละ 1 นาที ในการฝึกหายใจด้วยสติ หรือเดินด้วยสติก็ได้ค่ะ

- Mindful Breathing : เรา workshop ฝึกหายใจด้วยสติกันจริงจังมากค่ะ เพราะเครื่องมือนี้ช่วยดึงสติเราในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเยี่ยมยอดที่สุดค่ะ

- Mindful Walk : ในการทำงานเราเดินกันพอสมควร จงอย่าปล่อยการเดินนั้นให้เสียเปล่า แต่จงใช้การเดินเป็นเวทีฝึกสติไปด้วยเลยในตัว

- Mindful Break + Mindful Eating : จะเบรคทานกาแฟหรือขนม ก็อย่าติดลมเกินไป ฝึกดื่มและกินด้วยความรู้สึกตัวได้ง่าย ๆ ค่ะ

- Mindful Body Language : ฝึกรู้เท่าทันภาษากายที่เราแสดงออกไปในที่ทำงานหรือชีวิตประจำวัน แสดงออกอย่างนุ่มนวล ไม่ให้ใบหน้าหรือสายตาของเราไปทำร้ายใครโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ

- Mindful Email : สื่อสารอย่างมีสติด้วยการหยุดหายใจสัก 1 นาทีหลังเขียนอีเมล์เสร็จ อ่านทบทวนข้อความอีกครั้ง ให้แน่ใจว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นเป็นไปอย่างสันติและมุ่งผลของงานอย่างแท้จริง

กิจกรรมสุดท้ายชื่อว่า “ลูกโป่งหัวใจ” เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้อบรมเห็นว่า ใจที่มีสติคอยคุ้มครองนั้น จะสามารถเผชิญกับการคุกคามของผีทั้ง 3 ตัวได้ และทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายและมีความสุข

สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานของสีเบเยอร์ทุกท่านที่ไว้วางใจให้ครูบิ๊กได้มาเป็นวิทยากรบรรยายธรรมแสนสนุกในวันนี้ค่ะ

ครูบิ๊กเชื่อเหลือเกินว่าพวกเราจะได้สติและวิธีการจับผีทั้ง 3 ตัวกลับไปใช้ในการทำงาน อันจะส่งผลให้การทำงานของพวกเราเป็นการ “ทำงานที่สตรอง ครองด้วยสติ” อย่างแน่นอนค่ะ