วันนี้ครูบิ๊กได้รับเกียรติให้มาเป็นวิทยากรบรรยายธรรมให้กับผู้บริหารและหัวหน้าแผนกของบริษัทสามมิตรโอโตพาร์ท จ.สมุทรสาคร ค่ะ
การอบรมครั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้บริหาร ที่ให้ความสำคัญกับธรรมะมาก จนให้เวลาถึง 18 ชั่วโมง การอบรมจัดทุกเสาร์เว้นเสาร์ เสาร์ละ 3 ชั่วโมงช่วงบ่าย ดังนั้นหมายความวา แต่ละรุ่นจะได้พบกัน 6 ครั้ง และจัดอบรมทั้งสิ้น 2 รุ่นค่ะ
ก่อนจะมาเป็นคอร์สอบรมนี้ ท่านผู้บริหารเองได้ผ่านประสบการณ์ที่ทำให้ได้ตระหนักว่า เราทุกคนควรได้พบธรรมะและนำสิ่งที่พระศาสดาสอนไปใช้ก่อนความตายจะมาพาเราจากโลกนี้ไป ครูบิ๊กจึงได้ตั้งชื่อคอร์สนี้ว่า "อยู่อย่างไรให้ตายอย่างดี" ทั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมากจากคลิปวิดิโอ "ตายอย่างดี ตายอย่างไร" ของเสถียรธรรมสถาน ค่ะ

เริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกัน เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบท่านผุ้บริหารทั้ง 27 ท่านค่ะ ทุกท่านนำกางเกงที่สวมสบายมาเปลี่ยน และมาในเสื้อขาวกันถ้วนหน้า










น้อมนำกายใจให้สงบด้วยการสวดมนต์ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย


และชมคลิป "ตายอย่างดี ตายอย่างไร" ของเสถียรธรรมสถาน

จบคลิปนี้ ครูบิ๊กยิงคำถามว่า "ทำอย่างไรจึงจะตายอย่างดีคะ"
ดีใจที่ทุกท่านสามารถสรุปและให้คำตอบกับตนเองได้ว่า
"ต้องอยู่ให้ดี จึงจะตายอย่างดี"
แต่...อยู่อย่างดีนั้นต้องอยู่อย่างไร เป็นเรื่องที่เราต้องหาคำตอบกันต่อไป
จากนั้นครูบิ๊กถามคำถามซึ่งท่านพระอาจารย์ไพศาลมักจะถามพวกเราเสมอว่า
"พรุ่งนี้กับชาติหน้า อะไรจะมาถึงก่อน" หลายท่านตอบว่า "พรุ่งนี้"
ครูบิ๊กจึงได้ดูพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหลายข่าว คัดมาแต่ข่าวอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งสิ้น
ถ้าเราไปถามคำถามนี้กับคนเหล่านั้น เค้าก็คงตอบว่า "พรุ่งนี้" เช่นเดียวกันกับเรา แต่เสียดายที่ในความเป็นจริงนั้น "ชาติหน้า" มาถึงก่อนสำหรับเขา
และแล้วก็ถึงตาทุกท่านในที่นี้บ้าง ครูบิ๊กแจกตารางให้เขียนอายุตั้งต้น ไปจนถึงอายุที่คิดว่าเราน่าจะตาย

....ฉีกเป็นแผ่น ๆ

แล้วหย่อนลงในถ้วย
เมื่อพอเดาได้ว่า ครูบิ๊กจะให้ทำอะไรต่อไป ถึงกับมีเสียงอุทานว่า "ไม่นะ" (ท่านคงเดาได้แล้วว่าจะมีการจับฉลากอายุที่เราจะตายกัน จึงอุทานดังนี้ เพราะคงไม่มีใครชอบความตายนะคะ)


ให้เพื่อนข้าง ๆ เป็นมือที่มองไม่เห็น สุ่มหยิบอายุที่สมมตว่าเราจะตายขึ้นมา

ขอชื่นชมพี่ชิ้น ที่มือวิเศษหยิบได้อายุปีนี้ แต่พี่ชิ้นกล่าวอย่างมั่นใจว่า "ผมพร้อมตายแล้วครับ"

แต่มีหลายท่านทีเดียวที่อายุสมมติที่จะตาย ใกล้กับวันนี้มาก ท่านได้แบ่งปันความรู้สึก ซึ่งส่วนมากคล้ายกัน คือ เป็นห่วงลูก เป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง ถ้าต้องตายจริง ๆ คงจะต้องวางแผนชีวิตให้ลูกอย่างจริงจังกว่านี้

หลังจากเราเริ่มตระหนักว่า "เวลาเหลือไม่มาก" ดังนั้นเราควรต้องใช้เวลาที่เหลือ ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้านะคะ เริ่มจาก "พระพุทธเจ้าสอนอะไร"

ยุคนี้เขาขอ 3 คำ ครูบิ๊กให้ 2 คำพอ พระพุทธเจ้าสอนให้เรา "พ้นทุกข์"
แล้วเราทุกข์จากอะไรบ้าง หลายท่านตอบมาว่า เป็นหนี้ ลูกเรียนไม่เก่ง งานมีปัญหา
ท่านคะ..ทุกข์เหล่านั้นมันเล็กน้อยมากค่ะ เมื่อเทียบกับทุกข์ที่สุดคือ "การตาย" นั่นเอง
แต่แหม..แค่ตายครั้งเดียว มันจะไปทุกข์อะไร
ก็เพราะมันไม่ได้ตายครั้งเดียวน่ะสิคะ มันตายแล้วตายอีก ๆ ๆ ซ้ำ ๆๆๆๆ มาไม่รู้กี่ครั้ง และจะต้องตายกันไปอีกไม่รู้กี่ครั้ง นั่นละ!! คือความทุกข์ที่สุด
ถามต่อ "แล้วทำไมจึงมีความตาย" ตอบว่า "เพราะมีการเกิด" น่ะสิ แปลว่า...ไม่อยากตายก็ต้องไม่เกิด
(ตรงนี้ครูบิ๊กให้ปริศนาเล็ก ๆ ไว้ว่า หามีคนมาอวยพรวันเกิดท่านว่า ขอให้ไม่ได้ผุดได้เกิด ขอให้หมดเนื้อหมดตัว ขอให้ไม่มีอนาคต ท่านจะรับพรนี้มั้ย
มีท่านเดียวที่ยกมือว่า เป็นพรที่อยากได้มาก นอกนั้นตอบว่า ใครมาอวยพรแบบนี้มีโกรธกันแน่นอน)
กลับมาเข้าเรื่องของเราต่อ แล้วอะไรทำให้เราต้องมาเกิด
ตอบ "เพราะมี การกระทบ แล้วเราก็กระเทือน ดังนั้นเราจึงกระทำ" เมื่อกระทำก็ต้องเกิดมารับผลของการกระทำนั้นเอง
ดังนั้น อยากหยุดการเกิด ต้องไปดูตอนมีสิ่งมากระทบ แล้วคุมไม่ให้กระเทือน
ถามว่า "แล้วอะไรทำให้เรากระเทือน เมื่อกระทบ" ตอบว่า เพราะ "ตัวกู" กับ "ผี 3 ตัว" มันจะพยายามเข้ามาแทรกแซงตอนกระทบน่ะสิ

งานของเรา จึงเป็นการเข้าไปรู้ให้ทันตอนมีสิ่งมากระทบนะคะ ซึ่งเราก็จะได้เรียนรู้กันต่อไป

ถามต่อว่า เราเคยไปเวียนเกิดเวียนตายอยุ๋ที่ไหนกันมาบ้าง ครูบิ๊กก็ได้แนะนำให้ทุกท่านได้เรียนเรื่อง ภพภูมิในพุทธศาสนา เมื่อสอนไปถึงภพภูมิเดรัจฉาน ซึ่งทำอะไรโดยสัญชาติญาณ แต่ไร้สติ จีงได้โอกาสแนะนำให้รู้จัก "สติ" ซึ่งก็คือ ภาวะที่ "ตัวกับใจอยู่ที่เดียวกันนั่นเอง

ทำให้ "สติ" ดูเป็นรูปธรรมเสียหน่อย นี่ไงคะ "ตัวกับใจอยู่ด้วยกัน"

"ใจ" นั้น เธอมีชื่อเกาหลีว่า "เจ้าหญิงวุ่นวาย" เพราะเธอจะคอยไปโน่นมานี่อยู่เรื่อย
เมื่อไหร่ใจล่องลอยไป สติเปรียบเหมือนกล้ามแขนที่แข็งแรง คอยดึงเธอกลับมานั่นเองค่ะ

ครั้งแรก ๆ ปล่อยเจ้าหญิงวุ่นวายเธอไปไกล๊ ....ไกล เชือกยาวเป็นวา แต่หากฝึกรู้สึกตัวบ่อย ๆ ดึงเธอกลับมาได้ทัน เชือกจะค่อย ๆ สั้นลงเรื่อย ๆ

จบการอบรมวันนี้ด้วยการนำนั่งสมาธิเบื้องต้น ในท่าที่สบาย

ให้การบ้านไว้ระหว่างที่ไม่เจอกันด้วยนะคะ คือ
1) มีบันทึกก่อนนอนทุกคน อยากให้เขียนสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพื่อเป็นสำนึกขอบคุณ และฝึกการมองหามุมบวกในชีวิต แต่ที่สำคัญ ให้บันทึกนิสัยไม่ดีที่เราเผลอทำในวันนี ข้อนี้ถ้าเราทบทวนทุกวัน แค่ไม่ได้พบกัน 21 วัน เราก็จะมีนิสัยที่ดีขึ้น ถึง 21 นิสัย ถูกไหมคะ
2) ไปทิ้งขยะจากบ้านวันละ 1 ชิ้น เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ขยะปกติประจำวัน แต่เป็นขยะที่เราก็รู้ว่าไม่ได้ใช้ ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ทิ้งมันเสียที่ รองเท้าเก่า ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ
3) ทำควาามสะอาดใจด้วยการนั่งสมาธิทุกวัน จะเวลาไหนก็ได้ ซึ่งครูบิ๊กได้สอนการใช้ application ใน smartphone ให้ตัวหนึ่ง ซึ่งครูบิ๊กใช้ประจำแล้วชอบ
4) เขียนคำหรือประโยคเตือนใจลงบน wristband สีขาว เป็นเทคนิคที่ครูบิ๊กทำมาแล้วและรู้สึกชอบ ช่วยเตือนตัวเราได้มาก จึงนำเทคนิคนี้มาแบ่งปันผู้เข้าอบรมด้วยค่ะ




จากกันไปด้วยการร้องเพลง "ขอความเพลินแลกนิพพาน"

หมดคาบแรกกันไปแบบอบอุ่นเป็นกันเองนะคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ตั้งใจเรียนรู้สิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าสั่งสอนเรามา พบกันใหม่ในครั้งที่ 2/6 นะคะ
ขอให้สติรักษาทุกท่านค่ะ
ชมบรรยากาศ "อยู่อย่างไรให้ตายอย่างดี" รุ่น 1 ครั้งที่ 2/6 ได้ที่นี่










