ธรรมะง่าย ๆ กับวิทยากรธรรมะ - ครูบิ๊ก - สัปดาห์นี้มาแบ่งปันเรื่องจริงของการแผ่เมตตาให้กับคนที่ไม่ชอบเราในที่ทำงาน ให้ผลที่จับต้องได้จริง เป็นผลที่ไม่ทำร้ายใคร และในที่สุด...เมื่อคู่กรณีต้องจากไป..ความเมตตาทำให้เราสบายใจที่สุดค่ะ
Content สัปดาห์นี้เป็นการแชร์ประสบการณ์จริงจากผู้เข้าอบรมท่านหนึ่งที่ครูบิ๊กได้พบเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการอบรมครั้งนั้นครูบิ๊กเน้นย้ำเรื่องความเมตตาในที่ทำงานค่อนข้างมากค่ะ พี่สุ (นามสมมติ) จึงแบ่งปันประสบการณ์ที่ท่านได้ใช้การ #แผ่เมตตา ให้กับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบพี่สุและทีมของพี่สุอย่างมาก
คู่กรณีท่านนี้ไม่เคยพูดกับพี่สุและทีมงานดี ๆ เลย ต้องกระทบกระเทียบเปรียบเปรยทุกครั้ง และปฏิเสธไม่ทำงานให้กับทีมของพี่สุ ทำให้ทีมพี่สุดต้องรับงานนั้นมาทำเอง ท่ามกลางความอึดอัดของน้อง ๆ ทีมงาน ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความเคียดแค้นกรุ่นอยู่ลึก ๆ พี่สุกลับให้ทุกคนในทีมแผ่เมตตาให้กับคู่กรณีท่านนี้ทุกวัน อย่างต่อเนื่อง..และจริงจัง
เกือบหนึ่งเดือนผ่านไป สิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น คือคู่กรณีเอ่ยปากขอทำงานชิ้นหนึ่งให้กับทีมของพี่สุ ซึ่งเป็นกรณีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนในทีมรู้สึกทึ่งและเริ่มเชื่อมั่นในพลังของความเมตตา
แต่..ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ไม่นานจากนั้น...คู่กรณีจากไปด้วยอาการหัวใจวายค่ะ
พี่สุและทีมงานเสียใจ และพี่สุบอกน้อง ๆ ทีมงานว่า
“ณ วันนี้ ที่คุณเขาได้จากไปแล้ว เราทุกคนในทีมสามารถไปร่วมงานศพได้อย่างสบายใจ เพราะเรารู้ดีแก่ใจว่า ที่ผ่านมาเราไม่เคยส่งความอาฆาตมาดร้ายไปให้เขาเลย ตรงกันข้าม..เราแผ่แต่ความรักความเมตตาให้เขาโดยตลอด น้อง ๆ ลองคิดดูนะจ๊ะ...ว่าหากที่ผ่านมาเราสาปแช่งเขา วันนี้เราคงรู้สึกผิดมากนะ...ว่าเขาเสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็นเพราะอกุศลจิตของพวกเรา”
อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านคงมั่นใจในพลังของเมตตาขึ้นอีก 1 เลเวลนะคะ สำหรับครูบิ๊กไม่เคยสงสัยเลย เพราะเชื่อที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า “ภายใต้รัศมีแห่งความเมตตา ไม่มีใครทำร้ายใครได้”
ดังนั้น เราจงมาส่งความรักความเมตตากับกับทุกสรรพชีวิตต่อเนื่องไปเลยนะคะ แม้เดือนแห่งความรักกำลังจะผ่านไป แต่ขอความเมตตาจงอย่างได้หยุดโปรยปรายค่ะ
ฝากบทแผ่เมตตายุค 5G เอาไว้ ง่าย ๆ แค่ 5 คำค่ะ
“ขอให้ (ชื่อ) มีความสุข”
ขอให้ทุกท่านมีความสุขค่ะ