เนื้อหาหลักสูตรการเตรียมตัวสำหรับผู้เกษียณ ตั้งชื่อคอร์สว่า "เกษียณอย่างไรให้สนุกและสุขใจ Retire..Refire ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่
เริ่มด้วยการทำ workshop โดยแบ่งกลุ่มระดมสมองตอบคำถาม 3 ข้อคือ
1. ท่านได้อะไรจากการทำงาน
2. ข้อดีของการเกษียณคืออะไร
3. สิ่งที่ท่านกลัวหรือกังวลจากการเกษียณมีอะไรบ้าง
จากนั้นนำผลการระดมสมองมาถอดรหัสบูรณาการว่า
1) เราจะต้องเตรียมทำใจว่า สิ่งที่ได้จากการทำงานนั้นเราจะไม่ได้มันอีกต่อไป
2) พลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยการนำข้อดีของการเกษียณมากำจัดสิ่งที่เรากลัวหรือกังวลจากการเกษียณ เช่นกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ ก็ให้นำข้อดีของการเกษียณคือการมีเวลาว่างมาคิดหางานอดิเรกเป็นแหล่งรายได้อีกแหล่งหนึ่ง
เนื้อหาส่วนที่ 1 : ทำอย่างไรให้กายใจสมดุล
เนื้อหาส่วนนี้จะตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ผู้เกษียณจำเป็นต้องดูแลกายใจให้สมดุล เพราะสุขภาพเป็นต้นทุนของทุกอย่างหลังเกษียณ ครูบิ๊กเน้นให้ฉุกคิดว่า โดยปกติมนุษย์ทำ 4 อย่างให้ร่างกายเป็นประจำ แต่เราไม่เคยทำทั้ง 4 อย่างนี้ให้กับใจเลย 4 อย่างนั้นคือ “4 อ” : ออกกำลัง อาบน้ำ ให้อาหาร ตกแต่งด้วยอาภรณ์ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำ 4 อย่างนี้ให้กับใจด้วย กล่าวคือ
1) ออกกำลังใจ : ร่างกายยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งแข็งแรง แต่จิตใจนั้นต้องทำให้นิ่งจึงจะแข็งแรง ครูบิ๊กได้สอนเรื่องการทำสมาธิเบื้องต้นให้กับผู้เข้าอบรม
2) ให้อาหารใจ : อาหารของใจมีอยู่ 3 หมู่ ได้แก่การคิดบวก พูดแต่สิ่งที่เป็นบวก และทำในสิ่งที่เป็นบวก (คุณความดีบุญกุศล)
3) อาบน้ำใจ : ซึ่งก็คือการทำความสะอาดจิตใจนั่นเอง ซึ่งครูบิ๊กได้ใช้คำว่าการดีท็อกซ์จิตใจ ซึ่งเริ่มจาก
3.1 เห็นคุณค่าในตัวเอง ว่าเราเป็นคนมีคุณค่า และสั่งสมประสบการณ์ชีวิตไว้มากมาย และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้สังคมและคนรุ่นหลังต่อไป
3.2 ฝึกการเป็นผู้ให้ ซึ่งเราสามารถให้ของได้ 9 อย่าง ได้แก่ ทรัพย์สินเงินทอง / ความรักความเมตตา / รอยยิ้ม / คำพูดไพเราะ / ให้ความช่วยเหลือด้วยแรงกายแรงใจ / เสียสละ / ชื่นชมยินดี (มุทิตาจิต) ไม่คิดอิจฉาริษยาผู้อื่น / ให้ข้อคิดดีๆ / และให้อภัย
การอาบน้ำให้จิตใจทั้ง 3 ข้อทำให้เราเป็นผู้เกลี้ยงเกลา เป็นผู้สูงอายุที่หน้าเข้ามาหาน่าเคารพรักใคร่ เมื่อมีคนเข้ามาล้อมรอบตัวเรา ความเหงาที่หลายคนกลัวหรือกังวลก็จะหมดไป
4) สวมอาภรณ์ให้ใจ : อาภรณ์แปลว่าเสื้อผ้า เราควรสวมเสื้อผ้าให้ใจตลอดเวลาเพื่อใจจะได้อบอุ่น สวยงาม และป้องกันใจจากความร้อนความเย็นทั้งหลาย เสื้อผ้าของใจคือ "สติ" นั่นเอง ครูบิ๊กได้สอนเรื่องของการเจริญสติเบื้องต้น พร้อมทั้งแนะนำศัตรูที่ทำให้เราไม่มีสติอันได้แก่ผีขี้โลภหรือโลภะ ผีขี้โกรธหรือโทสะ และผีขี้หลงคือโมหะ สติสามารถเป็นรั้วป้องกันใจผู้เกษียณจากผีทั้ง 3 ตัวได้เป็นอย่างดี
เนื้อหาส่วนที่ 2 : เปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นอาชีพ
1. อาชีพที่รับผิดชอบต่อสังคม หรือสำนึกรักบ้านเกิด สำนึกรักรากเหง้าของตนเอง
2. Blogger หรือยูทูปเบอร์ในวัยเกษียณ ที่มีการนำเสนอแบบโพสต์ฮิปเตอร์ เช่น เพจยายบัวฮิปเตอร์ หรือ ลุงชัยเป็นคนชิคชิค
3. ทำคอร์สออนไลน์ คนเราสามารถสอนหัวข้ออะไรก็ได้ที่เราถนัดและมีความเชี่ยวชาญ
4. การท่องเที่ยวเชิงกีฬา เช่น เปิดบ้านสอนโยคะ เปิดบ้านทำค่ายมวย
5. ทำสิ่งที่รองรับตลาดผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ซึ่งจุดนี้ผู้เกษียณได้เปรียบ เพราะจะสามารถเข้าใจได้ว่าคนวัยเดียวกับตนเองต้องการอะไร
6.ขายสิ่งที่โชว์ความเป็นตัวของตัวเอง เพราะปัจจุบันนี้โลกต้องการเห็นของจริงและความจริง ต้องการเห็นตัวตนจริงๆของเรา ยกตัวอย่างเด็กเซาะกราวที่ดังมากมายจากการเลียนแบบมิวสิควีดีโอของวงแบล็คพิ้ง เด็กๆภูมิใจในความเป็น “เด็กบ้านนอก” ของตัวเองและนำเสนอได้อย่างน่ารัก
7. เปิดร้านขายของออนไลน์ ขายในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ
8. ธุรกิจดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายหรือสุขภาพใจก็ตาม
9. ธุรกิจที่เปิดโอกาสให้เด็กมาเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัย หรือให้เด็กมาลองทำงานต่างๆดู เช่น Kidzania หรือโฮมสเตย์ต่างๆที่เปิดโอกาสให้เด็กได้มาลองทำอาชีพเกษตรกรรม
10. ประสบการณ์ทานอาหารแบบตื่นเต้นท้าทาย เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มาชิมอาหารท้องถิ่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือทานอาหารธรรมดาในที่ที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นถิ่นนั้น เช่นในนาข้าว ในนาเกลือ หรือบนต้นไม้
เนื้อหาส่วนที่ 3 : การรักษาสุขภาพ เพื่อให้เกิด Active retirement
ครูบิ๊กแนะนำเคล็ดไม่ลับที่จะทำให้สุขภาพผู้สูงอายุแข็งแรงอยู่เสมอ เช่น การสร้างนิสัยที่ดี เคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ งดบุหรี่ ใช้สมองให้มาก มีรูปแบบการนอนที่ปกติ พบคุณหมออย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุดเรียนรู้ และเข้าสังคมให้บ่อย ๆ แค่นี้เราก็จะกลายเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพแล้วล่ะค่ะ
เนื้อหาส่วนที่ 4 : งานจิตอาสาที่รัก
จากการระดมสมองในกิจกรรมแรกทำให้พบว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้เกษียณกังวลคือ กลัวจะกลายเป็นคนไม่มีคุณค่า งานจิตอาสาจึงเป็นคำตอบค่ะ เพราะการเป็นผู้ให้ทำให้เรามีค่าเสมอ ครูบิ๊กแนะนำงานจิตอาสาทั้ง 9 กลุ่มได้แก่ งานด้านศาสนา ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษาและฝึกอบรม ด้านเด็กเยาวชนและสตรี ด้านศิลปวัฒนธรรม ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดที่จะพบงานอาสาที่เหมาะกับเราได้ คือการเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ธนาคารจิตอาสา www.jitarsabank.com เว็บไซต์นี้จะจับคู่จิตอาสากับงานอาสาเข้าด้วยกันเปิดโอกาสให้เราได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมในเงื่อนไขที่เหมาะสมกับตัวเราค่ะ
เนื้อหาส่วนที่ 5 : พินัยกรรมชีวิต
พินัยกรรมชีวิต (living will) คือการแสดงเจตจำนงเลือกที่จะรับหรือไม่รับการรักษาแบบหนึ่งแบบใดเมื่อเราเจ็บป่วยไม่รู้สึกตัว ปัจจุบันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบันการทำพินัยกรรมชีวิตเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้วในประเทศไทย ครูบิ๊กได้ชี้ให้เห็นความจริงของชีวิตว่า ความเจ็บป่วยไข้และความตายย่อมมาเยือนเราในวันหนึ่งแน่นอน เราจึงควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและแสดงเจตจำนงในการรับหรือไม่รับการรักษาแบบใดแบบหนึ่งจากแพทย์ การทําพินัยกรรมชีวิตทำให้แพทย์ทำตามเจตจำนงของเราอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการช่วยให้คนที่เรารักรอดพ้นจากการตัดสินใจในสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนใจไปได้
ซึ่งในตอนแรกครูบิ๊กได้เตรียมสำเนาของพินัยกรรมชีวิตไว้เพียงไม่กี่ชุด แต่หลังจากได้ชี้ให้เห็นความสำคัญและได้แสดงตัวอย่างพินัยกรรมชีวิตให้ผู้เข้าอบรมเห็นแล้ว ปรากฏว่าผู้เข้าอบรมทุกคนต้องการได้พินัยกรรมชีวิตเอาไปเขียนทั้งสิ้น ครูบิ๊กจึงได้ชี้ช่องทางทางเว็บไซต์ที่ผู้เข้าอบรมสามารถไปดาวน์โหลดพินัยกรรมชีวิตเองได้โดยสะดวกนั่นคือ www.thailivingwill.com
สุดท้ายนี้กราบขอบพระคุณผู้บริหารและผู้เตรียมเกษียณทุกท่านของบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทยจำกัด ที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน ครูบิ๊กมั่นใจว่าพวกเราทุกคนจะเตรียมตัวเกษียณกันได้อย่างมั่นใจและมีความสุขแน่นอนค่ะ