#ให้ธรรมะหมุนรอบตัวคุณ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ธรรมะหมุนอยู่ที่วัดทองเนียม เขตหนองแขมค่ะ ครูบิ๊กได้มีโอกาสไปช่วยค่ายเยาวชนปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดโดย ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดนนทบุรี และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดนนทบุรี
เรามาชมประมวลภาพจากกิจกรรมนี้ก่อนนะคะ
...
และแล้วก็ถึงเวลาที่ครูบิ๊กจะเล่าให้ฟังว่า "ใคร" พินิจ "ใคร" ในสถานพินิจ
อันดับแรกเลยคงต้องยอมรับว่า งานนี้..คืองาน "พินิจตัวเอง" ของครูบิ๊กเลยล่ะค่ะ ทำไมน่ะหรือคะ..
ก็เพราะว่า เราได้ปล่อยใจ ให้คิดปรุงแต่งไปต่าง ๆ นานา (ซึ่งส่วนมากคิดไปในทางลบเสียด้วย)
ที่ผ่านมาครูบิ๊กไปช่วยสอนธรรมะในค่ายสำหรับเยาวชนมามากมาย แต่เพิ่งมีค่ายนี้ที่พระอาจารย์ท่านแจ้งมาว่า เป็น "เยาวชนจากสถานพินิจ"
ทันทีที่ได้ยิน พูดเลยว่าในใจมีภาพและคำลบ ๆ ผุดขึ้นมามากมาย
"ต้องดื้อแน่เลย"
"สอนยากหรือเปล่า"
"เด็กเค้าจะฟังเราเหรอ"
"ระหว่างสอนต้องระวังตัวนะ"
ฯลฯ
เป็นเอามากจริง ๆ ใจคนเราเนี่ย!!!
หากคิดในแง่หนึ่ง อาจพูดได้ว่า ทีมงานเราไม่ประมาท ซึ่งก็ช่วยได้มากทีเดียวนะคะ
แต่เมื่อได้พบน้อง ๆ ตัวจริง ครูบิ๊กอยากบอกเหลือเกินว่า "ครูบิ๊กขอโทษนะคะ ที่หลงมองน้อง ๆ ผิดไปมาก"
น้อง ๆ มาเข้าค่ายกันทั้งหมด 34 คนค่ะ อายุน้อยที่สุดคือ 14 ปี มากที่สุดคือ 19 ปี และน้อง ๆ เกือบทุกคน มีจิตใจที่ดี พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กันแล้ว (บางคนก็เริ่มชีวิตใหม่ไปแล้ว และกำลังไปได้ดีด้วยสิ)
ค่ายกินเวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ พระอาจารย์และคณะวิทยากรมีการประชุมกันล่วงหน้า เพื่อเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมและจะให้ประโยชน์กับน้อง ๆ มากที่สุด และกิจกรรมก็ดำเนินไป ตามที่เราวางแผนไว้
พระอาจารย์ ครูบิ๊กเอง และคณะวิทยากรทั้งหมด ตั้งใจ และทุ่มเทเต็มที่เพื่อถ่ายทอดธรรมะของพระบรมศาสดาให้กับน้อง ๆ ตลอดเวลาเรารู้สึกว่า ไม่เหนื่อยเลย ซ้ำยังได้รับพลังและความสดใส ซาบซ่าจากน้อง ๆ อีกด้วย
คราวนี้ลองมาดูกันสิคะว่า สิ่งที่ครูบิ๊กได้ "ตั้งป้อม" เอาไว้ก่อนเจอกับน้อง ๆ นั้น ในความเป็นจริงมันเป็นอย่างไร
"ต้องดื้อแน่เลย" --> ไม่เห็นดื้อเลยค่ะ น้อง ๆ อยู่ในระเบียบวินัย ทำตามกฎ กติกามารยาททุกอย่าง ซ้ำยังมีน้ำใจช่วยเหลือกวาดลานวัดให้พระอาจารย์และแม่ชีอีกด้วย
"สอนยากหรือเปล่า" --> สอนง่ายมากค่ะ ส่วนหนึ่งต้องเชื่อที่พระศาสดาสอนว่า "เห็นทุกข์ จึงเห็นธรรม" ชีวิตของน้อง ๆ เหล่านี้ ผ่านด้านทุกข์มาให้เห็นประจักษ์แก่ใจ ดังนั้น การสอนธรรมะจึงเป็นเรื่องที่จับต้องได้สำหรับพวกเขามาก เวลายกตัวอย่างก็เอาชีวิตจริงนั่นแหล่ะมาแบเบอกันเลย แววตาของน้อง ๆ ดูเข้าอกเข้าใจชีวิต ทำให้การสอนธรรมะมีสีสันมาเลยเชียวค่ะ
"เด็กเค้าจะฟังเราเหรอ" --> "ฟังค่ะ ฟังมากกว่าที่อื่น ๆ ที่ครูบิ๊กเคยบรรยายมาเสียอีก" เพราะน้อง ๆ มีประสบการณ์ชีวิตมามาก ทำให้เขาอยากจะตักตวงคำสอนที่มีประโยชน์ เพื่อนำไปทำชีวิตที่เหลือให้ดีขึ้น คำถามที่พระอาจารย์หรือครูบิ๊กสอนไปนั้น น้อง ๆ ตอบได้หมดนะคะ
"ระหว่างสอนต้องระวังตัวนะ" --> ดูจากภาพดีกว่าค่ะ ว่าพวกเราต้องระวังตัวกันหรือไม่ ไม่เลยแม้แต่น้อย น้อง ๆ ทุกคนน่ารัก ทำให้เราลืมประเด็นนี้กันไปเลย เราสามารถนั่งใกล้ คลุกคลี เล่นเกมส์ ลูบหลังลูบบ่าน้อง ๆ ได้อย่างสนิทใจทีเดียว
สิ่งที่ครูบิ๊กประทับใจมากที่สุดคือ ภายใต้ท่าทางที่ติดจะ "เกรียน" เสมอ ๆ คือจิตใต้สำนึกที่ระลึกแล้วถึงบุญบาปนะคะ สังเกตจากกิจกรรมหนึ่งที่ตัดสินใจนำมาใช้ ชื่อกิจกรรม "เคลียร์ใจ" ดัดแปลงมาจากวิธี "สุนทรียสนทนา" ให้น้องๆ ได้พูดความในใจ 3 รอบ แต่ละรอบต้องพูดตามโจทย์ที่กำหนด คือ "ขอบคุณ" "ขอโทษ" และ "ระบายความเจ็บปวดทุกข์ใจ"
เชื่อหรือไม่ว่าในรอบ "ขอโทษ" เกือบทุกคนขอโทษพ่อแม่ และคนใกล้ตัวที่พวกเขาก้าวพลาด และทำให้คนเหล่านั้นเสียใจ หลายคนร้องไห้
ส่วนในรอบ "ระบายความทุกข์ใจ" คนที่อยากจะร้องไห้เสียเอง เป็นคุณครูที่ได้รับฟัง เพราะความผิดของน้องๆ หลายคนเป็นเหตุการณ์ "ตกกะไดพลอยโจน" มากกว่าจะเป็น "ความผิด" แต่ก็ต้องชื่นชมที่น้อง ๆ ยอมรับสภาพความจริง และเผชิญหน้ากับโชคชะตาได้อย่างดี
สุดท้ายก่อนปิดค่าย น้อง ๆ บอกว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้ในค่ายนี้้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน หรือบางอย่างหากรู้ ชีวิตเขาก็คงไม่เดินพลาด ก้าวพลาด เขาคงสามารถควบคุมตัวและใจได้ดีกว่านี้
ชีวิตยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่ต่างกันระหว่าง พระอาจารย์ คุณครู และน้อง ๆ ทุกคน พวกเราทุกคนขอเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันกับทางเดินข้างหน้านะคะ ก่อนจากกัน ประโยคที่ครูบิ๊กบอกกับน้อง ๆ คือ
"ขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนที่เป็นครูสอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับครูบิ๊กตลอด 3 วัน 2 คืนนี้
และอยากจะขอบคุณที่น้อง ๆ เป็นกระจกส่องให้ครูบิ๊กเห็นว่า ใจตัวเองยังต้องปรับปรุงอีกมาก
ขอบคุณที่ทำให้ครูบิ๊กเปิดใจ เห็นโอกาสในการพบกับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งที่น่ารักและน่าค้นหาอย่างยิ่ง"
ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดี และมีอนาคตที่สดใสค่ะ