ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า สิ่งที่ครูบิ๊กจะเขียนต่อไป ไม่เกี่ยวกับดารานักร้องที่โปรยไว้เลย เพียงแต่ขอบคุณท่านเหล่านั้นที่ทำให้คนที่รู้ข่าวได้ฉุกคิดถึงความตายของตนเองกับคนใกล้ตัวได้บ้าง

ปกติครูบิ๊กไม่ค่อยได้เขียนถึงข่าวบันเทิงมานัก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกว่ามีข่าวถี่มาก ว่าบุคคลสำคัญในวงการบันเทิงเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็น คุณยายอี๊ด สินีนาฎ, ป้าติ่ง พิมพ์พรรณ, เต้ย ไฮร็อค, แหวน ฐิติมา, ป๋าเดียร์ ชุมพร เทพพิทักษ์ คุณพ่อของพระเอกชื่อดัง ศรราม เทพพิทักษ์ รวมไปถึง แวว จ๊กมก ตลกน้องสาว หม่ำ จ๊กมก
ภาพที่ครูบิ๊กเห็นในข่าวบันเทิง 3-4 วันที่ผ่านมาคือ คนในวงการบันเทิง ไปงานศพกันวันละหลายงาน แต่ที่เห็นชัดเจนคือ ความอาลัยรักที่แขกมีให้กับผู้วายชนม์
หากท่านได้อ่านบทความนี้ ครูบิ๊กคงฟันธงได้ว่าท่านคงเคยไปงานศพมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแน่นอน แต่เราได้อะไรกลับบ้านจากงานศพบ้าง นั่นต่างหากที่เราควรจะถามตนเอง หากวันนี้เป็นงานศพของเราบ้างเล่า บรรยากาศจะเป็นอย่างไร
เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายนที่ผ่านมา มีงานหนึ่งที่ชื่อ Happy death day-เปลี่ยนวันตายให้กลายเป็นวันสุข งานนี้เป็นมหกรรมรวมเรื่องราวแห่งการตายไว้มากมาย ที่สำคัญ..งานนี้ช่วย "เปิด" และ "เปลี่ยน" มุมมองเกี่ยวกับการตายให้สังคมไทยเลยทีเดียว
ครูบิ๊กได้ไปร่วมงานนี้มาและพบว่า วันตาย ก็กลายเป็นวันสุขได้จริงตามชื่องาน เพียงแต่เราจะไม่ประมาทและวางแผนการตายของเราตั้งแต่วันนี้ คนดังหลายท่านก็ได้ออกแบบงานศพของตัวเองไว้แล้วโดยได้แรงบันดาลใจจากงานนี้ คลิปที่ดัง ๆ ก็แผนงานศพของคุณอุ๋ย บุดด้าเบลสไง ใครยังไม่ได้ดูก็คงหาชมได้ไม่ยาก
กิจกรรมหนึ่งที่ครูบิ๊กชอบมากและคิดว่าพวกเราทุกคนก็ทำได้ไม่ยาก แต่มันทำให้เราได้ฉุกคิดถึงชีวิตตัวเองได้ดีก็คือ "การเขียนคำไว้อาลัยให้งานศพตัวเอง" ค่ะ
นึกออกไหมคะ..ปกติก่อนที่จะมีการประชุมเพลิง จะต้องมีบุคคลใกล้ชิดหรือทายาทของผู้ตาย มากล่าวคำไว้อาลัยให้กับผู้ตาย ซึ่งส่วนมาก..ก็จะเป็นคุณความดี ผลงาน และนิสัยของผู้ตายซึ่งควรค่าให้ผู้อยู่ข้างหลังน้อมนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
ท่านลองเขียนดูสิคะ เขียนแล้วก็ไม่ได้เศร้าอย่างที่คิดหรอกค่ะ ซ้ำเป็นการกระตุกต่อมคิดให้ตัวเองด้วยซ้ำว่า หากเราต้องตายลงในวันนี้ เราจะมีคุณความดีใดให้คนรุ่นหลังเขาได้อ่านก่อนประชุมเพลิงเราไหมหนอ หรือถ้ามี..จะมีกี่ข้อกันเล่า
หากใครเขียนคำไว้อาลัยตัวเองแล้วพบว่า มันสั้นนิดเดียว คือไม่ค่อยมีเรื่องให้คนข้างหลังได้จดจำมากเท่าไหร่ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เราควรจะเริ่มสร้างผลงานที่ดีให้ตัวเองบ้างแล้ว และเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ เพราะพระอาจารย์ไพศาล วิสาโลท่านเทศน์เสมอว่า "พรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่รู้ว่าอะไรจะมาถึงก่อน"
แต่ไม่ว่าอะไรจะมาถึงก่อนก็ตาม การทำความดีนั้น คนที่ได้ดีคนแรกก็คือตัวท่านเองนั่นแหล่ะ ทำเสีย...เพราะอย่างน้อยถ้าเราทำดี ก็ได้ชื่อว่า เราอยู่ในโลกนี้แบบ "อยู่ให้เขาดีใจ...จากไปให้เขาคิดถึง" อย่างไรเล่าคะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันสุดสัปดาห์ค่ะ
ครูบิ๊ก
www.teacherbik.com