สวัสดีวันจันทร์ของสัปดาห์ใหม่ อากาศกำลังดีทีเดียว ขอให้ทุกท่านมีความสุขนะคะ
สัปดาห์สุดท้าย ก่อนถึงเดือนสุดท้ายของปีนี้ ครูบิ๊กขอชวนทุกท่านมา "Detox ปาก" กันไหมคะ
คนส่วนใหญ่(โดยเฉพาะผู้หญิง) กลัวเหลือเกิน ระวังเหลือเกิน กับสิ่งเราเอา "เข้า" ปาก

แต่แปลกที่ว่า... ไม่มีใครใส่ใจกับสิ่งที่เรา "ปล่อยออก" จากปากเลย
ส่ิงที่เรา "เอาเข้าปาก"นั้น ต้องจำกัดแคลอรี่ กินคลีน กินออร์แกนิคส์ แม็คโครไบโอติกส์ โลว์คาร์ป ... ฯลฯ มากมายหลายสิ่งนะคะ
แต่สิ่งเรา "ปล่อยออกจากปาก" มีแค่สิ่งเดียว...ส่ิงเดียวจริง ๆ สิ่งนั้นคือ..."คำพูด" นั่นเองค่ะ
"คำพูด" สำคัญมากนะคะ เพราะมันเป็นส่ิงเดียวที่มองเห็นและเรานำมาทำร้ายคนอื่นได้ง่ายที่สุด
คนเราทำ "สิ่งดี" และ "สิ่งชั่ว" ได้ 3 ทางเท่านั้นคือ ทางกาย ทางวาจา และทางใจค่ะ ถ้าเป็นการกระทำสิ่งดี ทำทางกาย หรือวาจา หรือใจก็ดีทั้งนั้น
แต่..ถ้าเป็นสิ่งชั่ว เบียดเบียนคนอื่นล่ะคะ
สิ่งชั่วหรือกรรมชั่วนั้น ถ้าแสดงออกทางใจ คือคิดนึกเอาเฉย ๆ ก็เป็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ส่วนถ้าคิดจะเบียดเบียนคนอื่นโดยการกระทำทางกาย ก็เกรงว่าจะถูกตำรวจจับเอา เพราะมันผิดกฎหมาย
ดังนั้น การทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยคำพูดนี่แหล่ะค่ะ ง่าย มองเห็นได้ สะใจ กฎหมายเอาผิดไม่ค่อยถึง ท่านเห็นด้วยกับประเด็นนี้มั้ยคะ
การรู้ทันใจที่กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง จึงเป็นการฝึกสติที่ดียิ่ง โดยเฉพาะรู้ทันการอยากพูดคำพูดลบๆ คำบ่น คำด่า คำตำหนิ ติฉินนินทา ประชดประชัน กัดจิกข่วนตี คำหยาบคายด่าทอ และร้ายสุดคือคำโกหก
สัปดาห์นี้ครูบิ๊กจึงอยากชวนทุกท่านมาลองทำ สิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า Challenge คือ "ทำสิ่งที่ทำได้ยาก...ให้ได้"
ใครอยากลองตั้งโจทย์ให้ตัวเองเลยว่า "7 วันนี้ฉันไม่พูดลบ" ซึ่งหมายความว่า เราจะไม่ปล่อยคำพูดเชิงลบใด ๆ ออกจากปากทั้งสิ้น และถ้าทำได้ ... แทนที่จะพูดลบ ให้พูดขอบคุณ(ในใจ)แทน ทั้งนี้เพราะ...คุณจะโกรธหรือด่าว่าใครได้ยาก หากคุณกำลังสำนึกขอบคุณอยู่ในใจค่ะ
พระพุทธเจ้าทรงพูดเรื่องสัมมาวาจาไว้ 2,600 ปีแล้วค่ะ อันดับแรก .. คำพูดที่ไพเราะสามารถนำมาให้เป็นทานได้นะคะ ยังไม่มีเวลาตักบาตรเนี่ย .. แค่พูดเพราะ ๆ ให้คนรอบตัวก็ถือว่าได้ทำบุญแล้วค่ะ
อันดับต่อมา...สัมมาวาจานี่เป็น 1 ใน 8 ทางสู่นิพพานเลยนะคะ อย่าเพิ่งมองว่านิพพานคือหลุดพ้น ให้มองนิพพานใกล้ตัวคือความสุขก่อน สัมมาวาจาคือ 1 ใน 8 ทางสู่ความสุขเชียวนะคะ สัมมาวาจาครอบคลุม 4 ด้านของคำพูดคือ ไม่พูดปด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ (การนินทาอยู่ในข้อนี้) ไม่พูดส่อเสียด (ประชดประชันอยู่ในข้อนี้) พิจารณาดูก็น่าจะจริง..เราไม่หาเรื่องคนอื่นด้วยคำพูดทั้ง 4 แบบนี้ ก็คงยากที่ใครจะมาทำให้เราทุกข์นะคะ
คริสตศาสนาก็สอนตรงกันค่ะ ว่าเราสามารถกำหนดชีวิตเราด้วยสิ่งที่เราพูดนี่แหล่ะ ในคัมภีร์ก็สอนว่า"การบ่น = วน ๆ อยู่ที่เดิม"
ท้ายสุด..ท่านคงอยากพบเจอแต่คนดีๆ ใช่มั้ยคะ คำพูดนี่แหล่ะ..คือกฎของแรงดึงดูดที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด ถ้าท่านพูดโกหก นินทา เอาแต่ด่าคนอื่นเป็นนิจ ใช้ถ้อยคำรุนแรง เมื่อมีผู้ที่ต้องการบทสนทนาทำนองนี้ พวกเขาจะไปที่ไหนคะ..แน่นอนค่ะ เค้าก็จะมาหาท่านนี่แหล่ะ เพราะมาแล้วรับรองว่าคุยกันได้ออกรสแน่ๆ
ในทางตรงข้าม ถ้าท่านพูดแต่ส่ิงดี ๆ ให้ข้อคิด ให้กำลังใจ ถ้อยคำที่อ่อนหวานรื่นหู เมื่อมีคนที่ท้อแท้ ต้องการแรงบันดาลใจ พร้อมจะสู้ต่อแต่ไร้พลัง คนกลุ่มนี้จะไปที่ไหนคะ .. เค้าก็จะมาหาท่าน เพราะรู้ว่าท่านให้กำลังใจเขาได้ ให้ข้อคิดเขาได้ เมื่อเขามาสนทนากับท่านแล้วเขาก็จะสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีพลังงานพร้อมสู้ พร้อมทำฝันให้เป็นจริง
เห็นมั้ยคะ..เราพูดอย่างไร ..เราก็ดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาหาเรานั่นเองค่ะ
ดังนั้น มาคุมส่ิงที่เราจะพูดออกจากปากกันเสียแต่วันนี้
โดยตั้งใจเสียว่า "7 วันนี้ฉันไม่พูดลบ" กันนะคะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขค่ะ
ครูบิ๊ก
www.teacherbik.com